ดวงอาทิตย์ พี่ใหญ่แห่งระบบสุริยะ

ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย และดาวหาง ล้วนแล้วแต่โคจรรอบดวงอาทิตย์ทั้งสิ้น ดวงอาทิตย์ยังมีความสำคัญกับมนุษย์และโลกอย่างมาก 
เช่น ให้พลังงานแก่พืชในรูปของแสงและยังทำให้โลกมีสภาวะอากาศหลากหลาย

ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับดวงอาทิตย์
-ระยะห่างเฉลี่ยวัดจากโลก                     
       1.496×1011 เมตร (9.295×107 ไมล์) (8.31 นาทีแสง)
-เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย                        
       1.392×109 เมตร (8.649×105 ไมล์) (เทียบกับโลก 109 ดวง)
-ความยาวเส้นศูนย์สูตร                        
       4.379×109 เมตร (2.717×106 ไมล์)
-พื้นที่ผิว                                                
       6.088×1018 ตารางเมตร (2.35×1012 ตารางไมล์) (11,900 เท่าของโลก)
-ปริมาตร                                                
       1.41×1027 ลูกบาศก์เมตร (3.38×1017 ลูกบาศก์ไมล์) (1,300,000 เท่าของโลก)
-มวล                                                
       1.9891×1030 กิโลกรัม (2.191874×1027 ตัน) (332,946 เท่าของโลก)
-อุณหภูมิพื้นผิว                                
       5,778 เคลวิน (9,940.73 องศาฟาเรนไฮต์)
-อุณหภูมิที่แกน                                
       ~15.71 ล้านเคลวิน (24,500,000 องศาฟาเรนไฮต์)
-ส่วนประกอบ                                         
       ไฮโดรเจน 74 % ฮีเลียม 25 % และธาตุอื่นๆ 1 %

อายุของดวงอาทิตย์

นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่าดวงอาทิตย์มีอายุประมาณ 5,000 ล้านปี ในขณะนี้ดวงอาทิตย์กำลังอยู่ในลำดับหลัก ทำการหลอมไฮโดรเจนให้เป็นฮีเลียม โดยทุกๆวินาที มวลสารของดวงอาทิตย์มากกว่า 4 ล้านตันถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน ดวงอาทิตย์ใช้เวลาโดยประมาณ 1 หมื่นล้านปีในการดำรงอยู่ในลำดับหลัก เมื่อไฮโดรเจนซึ่งเป็นเชื้อเพลิงของดวงอาทิตย์หมดลง วาระสุดท้ายของดวงอาทิตย์ก็มาถึง (คือการพ้นไปจากลำดับหลัก) โดยดวงอาทิตย์จะเริ่มพบกับจุดจบคือการแปรเปลี่ยนไปเป็นดาวยักษ์แดงภายใน 4-5 พันล้านปี หลังจากที่ดวงอาทิตย์ได้ผ่านสภาพการเป็นดาวยักษ์แดงแล้ว อุณหภูมิจากปฏิกิริยาการหลอมฮีเลียมที่เพิ่มสลับกับลงภายในแกน ก็จะเป็นตัวการให้ผิวดวงอาทิตย์ด้านนอกผละตัวออกจากแกน เกิดเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ แล้วอันตรธานไปในความมืดมิดของอวกาศ และเป็นวัสดุสำหรับสร้างดาวฤกษ์และระบบสุริยะรุ่นถัดไป ส่วนแกนที่เหลืออยู่ก็จะกลายเป็นดาวแคระขาวที่ร้อนจัดและมีแสงจางมาก ก่อนจะดับลงกลายเป็นดาวแคระดำ